กัลปพฤกษ์

กัลปพฤกษ์

ต้นกัลปพฤกษ์เป็นพันธุ์ไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดขอนแก่น เป็นต้นไม้ที่มีดอกสวยงาม ดอกกัลปพฤกษ์จะออกติดกันหนาแน่นตามกิ่งก้าน ดอกมีสีชมพูอ่อน เมื่อดอกบานจะเปลี่ยนสีเป็นสีชมพูเข้ม แต่เมื่อดอกบานเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีขาว ซึ่งถ้ามีดอกทั้งหมดอยู่ด้วยกันในช่อเดียวกัน จะช่วยเพิ่มความสวยงามของต้นกัลปพฤกษ์เป็นอย่างมาก มีความเชื่อว่าต้นกัลปพฤกษ์เป็นต้นไม้สิริมงคล เชื่อว่าถ้าได้ปลูกต้นกัลปพฤกษ์จะเกิดแต่สิ่งที่ดี สิ่งที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ทำสิ่งใดก็มีแต่สิ่งที่ชนะ ไม่มีทางแพ้ในการแข่งขัน ยังเชื่อว่าต้นกัลปพฤกษ์เป็นต้นไม้ที่แสดงถึงความเป็นอิสระ

ชื่อสามัญ : Pink Cassia, Pink Shower, Pink-And-White Shower, Wishing Tree

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cassia bakeriana Craib.

วงศ์ : LEGUMINOSAE

ชื่ออื่น : กัลปพฤกษ์ (ภาคกลาง ภาคเหนือ), กานล์ (เขมร-สุรินทร์), เปลือกขม (ปราจีนบุรี)

การแพร่กระจาย : ต้นกัลปพฤกษ์มีถิ่นกำเนิดในแถบประเทศพม่า ไทย ลาว เขมร เวียดนาม ในประเทศไทยพบขึ้นได้ตามป่าแดง ป่าโคก ป่าเต็งรัง และป่าเบญจพรรณแล้งทางภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั่วไป ที่ระดับความสูงประมาณ 300-1,000 เมตร

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :

ต้นกัลปพฤกษ์เป็นไม้ยืนต้นพลัดใบขนาดกลาง ลำต้นสูงประมาณ 5–15 เมตร เป็นไม้พุ่มโปร่ง เรือนยอดกลมหรือรูปร่ม แผ่กว้าง แตกกิ่งก้านสาขาเกะกะไม่เป็นระเบียบ กิ่งที่แตกใหม่จะยื่นยาวออกมาตรงพุ่งสู่ฟ้า เปลือกไม้เรียบ มีสีเทา เนื้อไม้สีเหลืองจนถึงสีน้ำตาล ยอดอ่อนและกิ่งอ่อนมีขนปกคลุมหนาแน่น ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ เรียงสลับ ยาวประมาณ 15-40 เซนติเมตร ก้านช่อใบยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร มีใบย่อยประมาณ 5-10 คู่ เรียงจากเล็กไปใหญ่ ใบรูปไข่แกมขอบขนานหรือแกมใบหอก ปลายใบเป็นติ่งแหลม โคนใบเบี้ยว ขอบใบเรียบ แผ่นใบบาง แผ่นใบมีขนละเอียดปกคลุมทั้งสองด้าน แต่ด้านหลังใบจะมีขนมากกว่าด้านท้องใบ ใบกว้างประมาณ 2-3 เซนติเมตร ยาวประมาณ 4-10 เซนติเมตร ดอกออกเป็นช่อกระจะตามกิ่งพร้อมกับแตกใบอ่อน ช่อยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร มีทั้งช่อตั้งและช่อห้อย มีขนสีเหลืองขึ้นปกคลุม ช่อดอกออกแน่นเป็นกลุ่มตลอดกิ่ง และมีการทิ้งใบทั้งหมด ก้านดอกยาวประมาณ 4-6 เซนติเมตร มีใบประดับรูปใบหอกชัดเจน มีขนาดกว้างประมาณ 7 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 0.7-1.2 เซนติเมตร ดอกมีสีชมพูอ่อน เมื่อดอกบานจะเปลี่ยนสีเป็นสีชมพูเข้ม และเมื่อดอกบานเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีขาว มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ มีลักษณะเป็นรูปใบหอกแกมรูปไข่ ปลายกลีบแหลม มีขนาดกว้างประมาณ 2-3 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 9-12 มิลลิเมตร มีขนนุ่มปกคลุมทั้งสองด้าน กลีบดอกมี 5 กลีบ รูปใบหอกแกมรูปไข่ ปลายมน โคนเรียวแคบ ขนาดกว้างประมาณ 2-2.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 4-5.5 เซนติเมตร ที่โคนกลีบดอกคอดเข้าหากันเป็นก้านแคบๆ ยาวประมาณ 5 มิลลิเมตร กลางดอกมีเกสรตัวผู้สีเหลือง 10 อัน มีขนาดไม่เท่ากัน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกมี 3 อัน ก้านชูอับเรณูยาวประมาณ 3.5-5 เซนติเมตร กลุ่มที่ 2 มี 4 อัน ก้านชูอับเรณูยาวเพียงครึ่งหนึ่งของกลุ่มแรก ส่วนกลุ่มที่ 3 มี 3 อัน อับเรณูมีขนาดเล็กมาก ก้านชูอับเรณูยาวได้ประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร มีรังไข่เรียวโค้งยาวประมาณ 4 เซนติเมตร มีขนสีขาวขึ้นปกคลุมบางๆ รังไข่ติดอยู่บนก้านส่ง เมื่อดอกบานเต็มที่จะมีขนาดกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร ผลเป็นฝักรูปทรงกระบอกยาวแคบ สีน้ำตาล ห้อยลงมาจากกิ่ง มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 30-40 เซนติเมตร มีขนนุ่มสีเทาปกคลุมตลอดฝัก ภายในฝักแบ่งออกเป็นช่องๆ ตามขวาง เนื้อในฝักเป็นสีขาวปนเขียว มีเมล็ดประมาณ 30-40 เมล็ด เมล็ดมีลักษณะค่อนข้างกลม รูปไข่ รูปรี ถึงรูปขอบขนาน สีน้ำตาลเป็นมัน ขนาดกว้างประมาณ 6-7 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 0.8-1.1 เซนติเมตร

ฤดูออกดอก : ออกดอกช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน ติดผลช่วงประมาณเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน

การขยายพันธุ์ : ต้นกัลปพฤกษ์นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

การปลูก : ต้นกัลปพฤกษ์เป็นต้นไม้ที่เจริญเติบโตได้ง่ายในเกือบทุกสภาพแวดล้อม โตเร็ว ทนแล้ง ขึ้นได้กับดินทุกชนิด แต่ชอบดินร่วนซุย ดินปนทราย ต้องการแสงแดดจัดหรือกลางแจ้ง เป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อยถึงปานกลาง ควรให้น้ำ 7–10 วันต่อครั้ง

การใช้ประโยชน์ :

ต้นกัลปพฤกษ์เป็นไม้พุ่มโปร่ง เรือนยอดกลมหรือรูปร่ม แผ่กว้าง มีดอกสวยงาม นิยมปลูกเป็นไม้ประดับสวน ให้ร่มเงา และมีความเชื่อว่าต้นกัลปพฤกษ์เป็นต้นไม้สิริมงคล เชื่อว่าถ้าได้ปลูกต้นกัลปพฤกษ์จะเกิดแต่สิ่งที่ดี สิ่งที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ทำสิ่งใดก็มีแต่สิ่งที่ชนะ ไม่มีทางแพ้ในการแข่งขัน ยังเชื่อว่าต้นกัลปพฤกษ์เป็นต้นไม้ที่แสดงถึงความเป็นอิสระ ต้นกัลปพฤกษ์มีสรรพคุณทางสมุนไพร เช่น เนื้อในฝักมีรสหวานเอียนขม ใช้ปรุงเป็นยาระบายอ่อนๆ ระบายอุจจาระธาตุ เปลือกฝักและเมล็ดรสขมเอียนทำให้อาเจียนถ่ายพิษ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง