ผักชีลาว (Dill)
ผักชีลาว มีประวัติการนำมาใช้ปรุงอาหารตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ เป็นเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว สามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งส่วนของใบ ลำต้น และเมล็ด ใบของผักชีลาวมีกลิ่นหอมขึ้นจมูกคล้ายสัมผัสของพาสลีย์ ใบสดและใบแห้งนิยมนำมาโรยบนอาหารประเภทปลาเพื่อช่วยดับกลิ่นคาว ใบสดนำมาใส่แกงอ่อม แกงหน่อไม้ ห่อหมก น้ำพริกปลาร้า ส่วนของเมล็ดมีน้ำมันหอมระเหยที่นิยมนำมาใช้แต่งกลิ่นผักดอง สตูว์ น้ำซอส ของหวาน และเครื่องดื่มต่างๆ คุณค่าทางโภชนาการของผักชีลาวนั้นประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก มีเบต้าแคโรทีน และสารต้านอนมูลอิสระ มีสรรพคุณช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกระเพาะอาหาร ช่วยย่อยอาหาร แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ และยังมีส่วนช่วยลดความดันโลหิต ขยายหลอดเลือด และช่วยกระตุ้นการหายใจได้อีกด้วย
ชื่อสามัญ : Dill
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Anethum graveolens L.
วงศ์ : UMBELLIFERAE
ชื่ออื่น : ผักชีเมือง (น่าน), ผักชีเทียน ผักชีตั๊กแตน (พิจิตร), ผักชี (เลย ขอนแก่น), เทียนข้าวเปลือก เทียนตาตั๊กแตน (ภาคกลาง)
ถิ่นกำเนิด : มีถิ่นกำเนิดจากทั้งทางตอนใต้ของรัสเซีย ทางตะวันออกของยุโรป แถบเมดิเตอเรเนียน และเอเชีย
ลักษณะทั่วไป : ผักชีลาว เป็นพืชล้มลุกอายุ 1-2 ปี ลำต้นกลมเรียบและตั้งตรง สีเขียวอ่อน เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1-10 มิลลิเมตร สูงประมาณ 40-170 เซนติเมตร มีข้อปล้องเห็นได้ชัดเจน มีกาบใบหุ้มลำต้นเล็กน้อย เนื้อลำต้นมีลักษณะอ่อน หักพับง่าย ทั้งต้นมีกลิ่นหอม ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก สีเขียวสด ออกเรียงสลับตรงข้ามกันบริเวณข้อกิ่ง ก้านใบยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร บนก้านใบประกอบด้วยใบย่อยจำนวนมาก แต่ละใบย่อยมีก้านใบยาวประมาณ 4-6 เซนติเมตร แตกออกตรงข้ามกันเป็นคู่ๆ ส่วนของใบมีลักษณะแคบยาวเป็นเส้นแบนขนาดเล็ก ยาวประมาณ 0.5-2 เซนติเมตร ดอกออกเป็นช่อแบบช่อซี่ร่มหลายชั้น แทงดอกออกบริเวณส่วนยอดของลำต้น ก้านช่อดอกยาวประมาณ 7-16 เซนติเมตร แต่ละช่อมีดอกจำนวนมาก ดอกมีขนาดเล็ก กลีบเลี้ยงมีขนาดเล็กมาก กลีบดอกสีเหลืองมี 5 กลีบ เกสรเพศผู้มี 5 อัน ติดบนฐานดอก เรียงสลับกับกลีบดอก รังไข่อยู่ใต้วงกลีบ มี 2 ช่อง ผล 1 ผล เจริญมาจากดอก 1 ดอก ทรงรีรูปไข่ ผิวเรียบ สีน้ำตาลอมเหลือง ขนาดกว้างประมาณ 2 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 4 มิลลิเมตร เมล็ดแห้งที่แก่จัดมีลักษณะแบน และมีลายสีน้ำตาลสลับดำอมเท่าพาดตามแนวยาวของเมล็ด ลายนี้ทำให้มองเห็นเมล็ดดูคล้ายตาตั๊กแตน เรียกตามตำรายาไทยว่า “เทียนตาตั๊กแตน”
การขยายพันธุ์ : ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด
การปลูก : ผักชีลาวเป็นพืชที่ชอบดินร่วนซุย เจริญได้ในดินแทบทุกชนิด ผักชีลาวเป็นพืชที่ชอบน้ำ ต้องระบายน้ำดี น้ำไม่ขัง ชอบแสงแดด ต้องดูแลรดน้ำเสมอ และโดนแดดได้ตลอดวัน ต้องหมั่นรดน้ำให้ชุ่ม โดยรดน้ำเช้าเย็น จะทำให้ผักชีลาวโตได้เร็ว
ประโยชน์ : ผักชีลาวเป็นเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว นิยมนำใบสดและใบแห้งมาโรยบนอาหารประเภทเนื้อ เนื้อแกะ เนื้อปลาเพื่อช่วยดับกลิ่นคาว ใบสดนำมาใส่แกงอ่อม แกงหน่อไม้ ห่อหมก น้ำพริกปลาร้า ส่วนของเมล็ดมีน้ำมันหอมระเหยที่นิยมนำมาใช้แต่งกลิ่นผักดอง สตูว์ น้ำซอส ของหวาน และเครื่องดื่มต่างๆ ผักชีลาวนั้นประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก มีเบต้าแคโรทีน และสารต้านอนมูลอิสระ มีสรรพคุณช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกระเพาะอาหาร ช่วยย่อยอาหาร แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ และยังมีส่วนช่วยลดความดันโลหิต ขยายหลอดเลือด และช่วยกระตุ้นการหายใจได้อีกด้วย