บานบุรีม่วง
ชื่อสามัญ : Purple Allamanda, Violet Allamanda
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Allamanda violacea Gard. & Field.
วงศ์ : APOCYNACEAE
ชื่ออื่น : บานบุรีสีม่วง, บานบุรีสีกุหลาบ
ถิ่นกำเนิด : มีถิ่นกำเนิดในประเทศแถบอเมริกาเขตร้อน
ลักษณะทั่วไป :
ต้น บานบุรีม่วงหรือบานบุรีสีม่วง เป็นไม้พุ่มรอเลื้อย เถาหรือลำต้นมีขนาดเล็กแข็งและเหนียว ทุกส่วนของเถาหรือลำต้นมียางสีขาว เถาของบานบุรีสีม่วงเลื้อยไปได้ไม่ไกลอย่างบานบุรีเหลือง บานบุรีม่วงจะเลื้อยไปได้ไกลประมาณ 3 เมตร
ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงรอบข้อ 4 ใบ ใบสีเขียวแต่ไม่ถึงกับเขียวเข้ม ใบรูปรีหรือรูปขอบขนาน ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบมน ขอบใบเรียบเกลี้ยง ใบบิดเป็นคลื่นเล็กน้อย เนื้อใบอ่อนและปกคลุมไปด้วยขนแข็งที่ละเอียด เมื่อจับดูจะรู้สึกระคายมือ ขนาดใบกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 7-10 เซนติเมตร ก้านใบสั้น
ดอก บานบุรีม่วงออกดอกเป็นช่อสั้นๆ ตามซอกใบและปลายกิ่ง หรือดามข้อต้นช่อละ 5-6 ดอก ดอกรูปทรงกรวยปลายดอกบานออกเป็น 5 กลีบ คล้ายรูปแตร มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปไข่กลับ สีเขียวอ่อน มีกลีบดอก 5 กลีบ สีม่วงแดงหรือม่วงอมชมพู กลีบดอกแต่ละกลีบเหลื่อมซ้อนทับกันคล้ายกังหัน โคนกลีบสีม่วงเข้มเชื่อมติดกันเป็นหลอด ดอกบานเต็มที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 7-9 เซนติเมตร ภายในดอกมีเกสรตัวผู้ 5 อัน ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ
ผลและเมล็ด ผลรูปไข่ มีหนาม เมื่อแก่แตกออก เมล็ดจำนวนมาก
การขยายพันธุ์ : ขยายพันธุ์โดยการปักชำกิ่ง การตอนกิ่ง และการเพาะเมล็ด
ฤดูออกดอก : บานบุรีม่วงออกดอกได้ตลอดทั้งปี แต่จะให้ดอกดกในช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน-สิงหาคม
การปลูก :
บานบุรีม่วงเป็นไม้ที่มีการเจริญเติบโตค่อนข้างช้า และมักจะแตกกิ่งหรือแขนงใหม่ได้ดีในช่วงฤดูฝนเท่านั้น ปลูกโดยนำกิ่งที่ได้จากการปักชำ การตอน หรือการเพาะเมล็ดมาปลูกลงดิน โดยขุดหลุมกว้างและลึกประมาณ 30 เซนติเมตร แล้วรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมัก 1/4 ของหลุม กลบดินเล็กน้อย แล้ววางกิ่งที่จะปลูกลงกลางหลุม กลบดินพอแน่น แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
การดูแลรักษา :
แสง บานบุรีม่วงเป็นไม้กลางแจ้ง ชอบแสงแดดจัดพอสมควร
ดิน บานบุรีม่วงขึ้นได้ดีในดินร่วนที่มีความชุ่มชื้น ระบายน้ำได้ดี มีอินทรียวัตถุสูง
น้ำ เป็นไม้ที่ต้องการน้ำปานกลาง ควรรดน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น อย่าปล่อยให้ดินที่บริเวณโคนต้นแห้ง หากดินโคนต้นแห้งสนิทเมื่อใด ต้นก็จะตายทันที
ปุ๋ย ให้ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก รองกันหลุมตอนปลูก เมื่อต้นโตแล้วให้พรวนดินบริเวณโคนต้น แล้วใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 2 ครั้ง
โรคและแมลง ไม่มีโรคและแมลงที่สำคัญ