มะค่าแต้

มะค่าแต้

ต้นมะค่าแต้เป็นพันธุ์ไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดสุรินทร์ ต้นมะค่าแต้มีเนื้อไม้สีน้ำตาลอ่อนหรือน้ำตาลแก่ ค่อนข้างหยาบ มีความแข็งแรงทนทาน ทนต่อปลวกได้ดี เลื่อย ผ่า ไสกบตบแต่งได้ยาก สามารถนำมาใช้ในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนได้ดี ใช้ทำเครื่องเรือน เครื่องมือทางการเกษตร ใช้ทำโครงเรือ ฝักและเปลือกให้น้ำฝาดสำหรับฟอกหนัง เปลือกต้นนำมาใช้ย้อมสีเส้นไหม ย้อมแห โดยจะให้สีแดง สรรพคุณของมะค่าแต้ แก้ซาง แก้ลิ้นเป็นฝ้า เป็นยาขับพยาธิ ยาแก้อีสุกอีใส และใช้เป็นยาแก้โรคผิวหนัง

ชื่อสามัญ : Ma kha num

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Sindora siamensis Teijsm. Ex Miq.

วงศ์ : LEGUMINOSAE

ชื่ออื่น : มะค่าแต้ (ทั่วไป), มะค่าหยุม มะค่าหนาม (ภาคเหนือ), แต้ (ภาคอีสาน), มะค่าหนาม มะค่าแต้ มะค่าลิง (ภาคกลาง), กอกก้อ (ชาวบน-นครราชสีมา), กอเก๊าะ ก้าเกาะ (เขมร-สุรินทร์), กรอก๊อส (เขมร-พระตะบอง), แต้หนาม

การแพร่กระจาย : มีเขตการกระจายพันธุ์จากภูมิภาคอินโดจีนจนถึงมาเลเซีย ในประเทศไทยสามารถพบได้ตามป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณแล้ง ป่าโคกข่าว ป่าผลัดใบ ป่าดิบแล้ง และป่าชายหาดที่ระดับใกล้กับน้ำทะเลไปจนถึงที่ระดับความสูง 400 เมตร

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :

ต้นมะค่าแต้เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ สูงประมาณ 10–25 เมตร แตกกิ่งก้านแผ่กว้าง มีเรือนยอดเป็นรูปร่มหรือเป็นทรงเจดีย์ต่ำ กิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขนสีน้ำตาล เปลือกต้นสีเทาคล้ำแตกเป็นสะเก็ดเล็กๆ เนื้อไม้สีน้ำตาลอ่อนหรือน้ำตาลแก่ ค่อนข้าง ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกออกเรียงสลับ มีใบย่อยประมาณ 3-4 ใบ ออกเรียงตรงข้ามกัน แกนช่อใบยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร ใบเป็นรูปรีหรือรูปไข่ ปลายใบและโคนใบมน ขอบใบเป็นคลื่นใบมีขนาดกว้างประมาณ 3-8 เซนติเมตรและยาวประมาณ 6-15 เซนติเมตร แผ่นใบหนา แผ่นใบด้านบนมีขนหยาบ ส่วนด้านท้องใบมีขนนุ่ม ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบหรือตามปลายกิ่ง ช่อดอกยาวประมาณ 10-25 เซนติเมตร ดอกมีขนาดเล็ก สีเหลืองแกมเขียว มีกลีบเลี้ยงหนา 4 กลีบ ลักษณะกลีบเป็นรูปไข่กว้าง ปลายกลีบมีหนามขนาดเล็ก ส่วนกลีบดอกยาวประมาณ 7 มิลลิเมตร ดอกมีเกสรตัวผู้ 10 ก้าน และมี 2 ก้านใหญ่กว่าก้านอื่นๆ ด้านนอกดอกมีขนสีน้ำตาล ก้านดอกยาวประมาณ 0.2-0.4 เซนติเมตร ผลออกเป็นฝักเดี่ยวแบนค่อนข้างกลม รูปไข่กว้างหรือรูปโล่ โคนเบี้ยวและมักมีติ่งแหลม ผลมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4.5-10 เซนติเมตร ที่ผิวฝักมีหนามแหลมแข็งอยู่ทั่วไป หนามยาวประมาณ 3-5 มิลลิเมตร พอแห้งจะแตกออกเป็น 2 ซีก ภายในมีเมล็ดสีดำประมาณ 1-3 เมล็ด ขนาดประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร

ฤดูออกดอก : ต้นมะค่าแต้ออกดอกในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ผลแก่ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน

การขยายพันธุ์ : ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดและวิธีการตอนกิ่ง

การปลูก : ต้นมะค่าแต้สามารถปลูกได้ในดินทุกชนิด เป็นไม้กลางแจ้งที่ต้องการแสงแดดตลอดวัน ต้องการน้ำและความชื้นปานกลาง

การใช้ประโยชน์ :

ต้นมะค่าแต้มีเนื้อไม้สีน้ำตาอ่อนหรือสีน้ำตาลแก่ เมื่อทิ้งไว้นานๆ สีจะเข้มขึ้น มีเส้นสีเข้มกว่าสลับกับเนื้อไม้ที่ค่อนข้างหยาบ มีความแข็งแรงทนทาน ทนต่อปลวกได้ดี เลื่อย ผ่า ไสกบตบแต่งได้ยาก สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนได้ดี ใช้ทำเสา รอด ตง พื้น พื้นรอง ทำเครื่องเรือน เครื่องมือทางการเกษตร เครื่องเกวียน เครื่องไถนา หมอนรองรางรถไฟ ลูกกลิ้งนาเกลือ กระดูกเรือ หรือใช้ทำโครงเรือใบเดินทะเล เป็นต้น สรรพคุณด้านสมุนไพรของต้นมะค่าแต้มีหลากหลาย สามารถใช้ส่วนต่างๆ ของต้นในการรักษาได้ เช่น เปลือกต้นใช้ต้มแก้ซาง แก้ลิ้นเป็นฝ้า ปุ่มที่เปลือกต้นและเมล็ดมีรสเบื่อขม นำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้พยาธิ นำมาต้มรมให้หัวริดสีดวงทวารหนักฝ่อ ใช้เป็นยาแก้โรคผิวหนัง

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง