ดอกสะเดา
ชื่อวิทยาศาสตร์
Azadirachta siamensis
ชื่อวงศ์
Meliaceae
ชื่อสามัญ
Neem tree
ลักษณะทั่วไป
สะเดาเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ขึ้นได้ในป่า หรือปลูกไว้ตามบ้าน เปลือกของต้นมีสีน้ำตาลเทาหรือเทาปนดำ แตกระแหงเป็นร่องเล็กๆ ใบเป็นช่อแบบขนนก ใบย่อยรูปใบหอก ขอบใบหยักใบออกเรียงกัน ตรงปลายกิ่งสะเดา จะผลิใบใหม่ พร้อมผลิดอกออกเป็นช่อสีขาว ทุกส่วนของสะเดามีรสขม นำยอดอ่อนและดอกสะเดาลวกน้ำร้อน 2 ครั้ง เพื่อให้หายขม รับประทานเป็นอาหารประจำครอบครัวในช่วงฤดูหนาว เพราะดอกสะเดาจะออกช่อในฤดูหนาว ปัจจุบันเราสามารถรับประทานสะเดาได้ตลอดทั้งปี โดยใช้ยอดอ่อนรับประทานแทนดอกรสชาดอร่อยพอกัน
การปลูก
สะเดาเป็นพรรณไม้กลางแจ้ง ทนความร้อนได้ดี ปลูกได้ดีในดินทุกประเภท ต้องการน้ำและความชื้นน้อย ขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง
สรรพคุณทางยา
ทุกส่วนของสะเดาสามารถนำมาทำเป็นยาได้ เช่น ใบสะเดานำมาตำทำเป็นยาพอกฝี ดอกใช้แก้พิษเลือดกำเดา ผลใช้บำบัดอาการโรคหัวใจเต้นผิดปกติ รากช่วยแก้เสมหะ เปลือกรากรักษาไข้ตัวร้อน นอกจากนี้ยังใช้เป็นส่วนผสมกำจัดแมลงที่เป็นศัตรูพืชได้อีกด้วย
รายการอาหาร
สะเดาน้ำปลาหวาน ยำดอกสะเดา
สะเดาน้ำปลาหวาน
เครื่องปรุง
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลมะพร้าว 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
- ปลากรอบป่นหรือกุ้งแห้งป่น ½ ถ้วยตวง
- หอมแดงเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูทอดกรอบ 10 เม็ด
- ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
นำน้ำปลา น้ำตาล น้ำส้มมะขามเปียก เคี่ยวจนข้น ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น ใส่หอมเจียว กระเทียมเจียว ปลากรอบป่น หรือกุ้งแห้งป่น คนให้เข้ากัน พริกขี้หนูทอดกรอบ หักเป็นชิ้นๆ ใส่ผักชีซอย รับประทานกับสะเดาลวกน้ำร้อน กุ้งเผาหรือปลาดุกเผา
ยำดอกสะเดา
เครื่องปรุง
- ช่อดอกสะเดา 2 ถ้วยตวง
- หมูเนื้อแดงอมมัน 1 ถ้วยตวง
- กุ้งนาง ½ ถ้วยตวง
- ปลาหมึกลวกสุก ½ ถ้วยตวง
- หอมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูแห้งทอด 10 เม็ด
วิธีทำ
นำดอกสะเดาลวกรูดเอาเฉพาะดอกลวกน้ำร้อนแล้ว 2 ครั้ง ใส่หมูต้มสุกหั่นเป็นชิ้นบางๆ กุ้งเผาปลอกเปลือกหั่นเป็นชิ้นบางๆ ปลาหมึกลวก ใส่น้ำปลา น้ำตาล น้ำมะนาว คลุกให้เข้ากัน จัดใส่จาน โรยหอมเจียว พริกแห้งทอด ชิมรส เปรี้ยว เค็ม หวาน ตามชอบ