ว่านหางจระเข้ชื่อวิทยาศาสตร์Aloe indica Royle. วงศ์LILIACEAE ชื่อสามัญ– ชื่ออื่นๆว่านหางจระเข้, หางจระเข้ หางตะเข้ (ภาคกลาง) ว่านไฟไหม้ (ภาคเหนือ) ลักษณะทั่วไปไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 0.5-1 เมตร ลำต้นเป็นข้อปล้องสั้น ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงเวียนรอบต้น ใบหนาและยาว โคนใบใหญ่ ส่วนปลายใบแหลม ขอบใบเป็นหนามแหลมห่างกัน แผ่นใบหนาสีเขียว มีจุดกระสีขาวถึงสีเขียวอ่อน อวบน้ำ ข้างในเป็นวุ้นใสสีเขียวอ่อน ดอกออกเป็นช่อกระจะที่ปลายยอด ก้านช่อดอกยาว ดอกสีแดงอมเหลือง โคมเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 6 แฉก เรียงเป็น 2 ชั้น รูปแตร ผลเป็นฝักแห้งรูปกระสวย การปลูกว่านหางจระเข้ปลูกง่าย โดยการใช้หน่ออ่อน ปลูกได้ดีในบริเวณทะเลที่เป็นดินทราย และมีปุ๋ยอุดมสมบูรณ์ดี จะปลูกเอาไว้ในกระถางก็ได้ ในแปลงปลูกก็ได้ ปลูกห่างกันสัก 1-2 ฟุต เป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก แต่ต้องมีการระบายน้ำดีพอ มิฉะนั้นจะทำให้รากเน่าและตาย ว่านหางจระเข้ชอบแดดรำไร ถ้าถูกแดดจัดใบจะเป็นสีน้ำตาลแดง การขยายพันธุ์ขยายพันธุ์โดยการแยกลำต้น สรรพคุณทางยาส่วนวุ้นจากใบใช้รักษาแผลไฟไหม้ การอักเสบของผิวหนัง หรือใช้ผสมกับขี้ผึ้ง ใช้ทารักษาผิวหนังถูกแสงแดดทำให้เนื้อไหม้เกรียม และป้องกันรังสี รักษาอาการคัน รักษาฝ้า จุดด่างดำบนใบหน้า ส่วนใบสดๆ ใช้ฝานหนาๆ แล้วทาปูนแดงที่วุ้นแล้วใช้ปิดขมับ รักษาอาการปวดศีรษะ ทำให้เย็นดูดพิษ รากและเหง้า นำไปต้มกินรักษาโรคหนองใน ว่าน ไม้ประดับนามมงคลวงศ์พลับพลึง AMARYLLIDACEAEวงศ์บอน ARACEAEวงศ์ทานตะวัน COMPOSITAEวงศ์เปล้า EUPHORBIACEAEวงศ์ธรรมรักษา HELICONIACEAEวงศ์ไอริส IRIDACEAEวงศ์ลิลลี่ LILIACEAEวงศ์คล้า MARANTHACEAEวงศ์กล้วยไม้ ORCHIDACEAEวงศ์ไม้เท้ายายม่อม TACCACEAEวงศ์องุ่น VITACEAEวงศ์ขิง ZINGIBERACEAE |
||